วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สรุปวิจัย การคิดอย่างมีเหตุผลของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ชื่อผู้วิจัย สายทิพย์ ศรีแก้วทุมมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร

สรุปวิจัย



การคิดอย่างมีเหตุผลของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ชื่อผู้วิจัย สายทิพย์ ศรีแก้วทุมมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร


วัตถุประสงค์
เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการคิดอย่างมีเหตุผลของเด็กปฐมวัย ที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

สมมติฐานการวิจัย
ความสามารถการคิดอย่างมีเหตุผลของเด็กปฐมวัย ที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

วิธีการดำเนินการวิจัย 
นักเรียนชั้นอนุบาล2 อายุ 5-6 ปี ใช้การสุ่มอย่างง่ายห้องเรียนมา1 ห้องจากห้องเรียน 2ห้องแล้วจับฉลาดรายชื่อนักเรียนเข้าสู่การทดลองและกลุ่มควบคุมอย่างละ15คนรวมเป็นทั้งหมด 30 คน
เครื่องในการวิจัย

เครื่องที่ใช้ในการวิจัยประกอบไปด้วย  1. แผนการสอนกิจกรรมสร้างสรรค์ 2, แบบปกติและแบบกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบความสามารถการคิดอย่างมีเหตุผลแบ่งเป็น5 ด้าน คือการจำแนกการจัดประเภท การอุปมาอุปามัย อนุกรมและสรุปความ

ช่วงเวลาการทดลอง

ภาคเรียนที่1 เป็นเวลา8 สัปดาห์

วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล

วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยนเบนมาตรฐาน
การเปรีบยเทียบความสามารถการคิดอย่างมีเหตุผลของเด็กปฐมวัยที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม

ผลการวิจัย

เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมความคิดสร้างสรรค์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถการคิดอย่างมีเหตุผลสูงกว่าเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ

ของเล่นวิทยายศาสตร์

ลูกโป่งหรรษา

อุปกรณ์

หลอดกาแฟ
ขวดน้ำ
ขวดซันไลน์
ขวดโหล




สรุปบทความ : เด็กๆ อนุบาลสนุกกับ “สะเต็มศึกษา” ผ่านโครงงานปฐมวัย



สรุปบทความ


บทความ : เด็กๆ อนุบาลสนุกกับ สะเต็มศึกษา” ผ่านโครงงานปฐมวัย
                 

                สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ในฐานะองค์กรหลักของชาติ ที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำและพัฒนาหลักสูตร สื่อ นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ในทุกระดับการศึกษาให้เหมาะสมเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หนึ่งในแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับโลกในศตวรรษนี้ ที่สสวท. กำลังผลักดันก็คือ การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา โดยเน้นการนำความรู้และกระบวนการด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศกรรมศาสตร์ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้ผู้เรียนสามารถดำเนินชีวิตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต 
                
 ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร  ผู้อำนวยการ สสวท. กล่าวว่า แนวคิดในเรื่องสะเต็มศึกษานั้น เป็นกระบวนการเชิงระบบแบบวิทยาศาสตร์ ที่นำมาเชื่อมโยงในกระบวนการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ผลงานหรือชิ้นงานจากการคิดค้น การแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ ซึ่งสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียน โดยนำสิ่งที่เรียนรู้ในระบบโรงเรียนไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพได้
                
                          สำหรับวิธีการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดใจของเด็กเพื่อให้มีความรู้สึกสนุกในการเรียนรู้และเห็นคุณค่าของการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ มีแนวคิดหลัก ข้อ คือ
 1.) ครูต้องเน้นการบูรณาการ
 2.) ครูต้องช่วยให้นักเรียนมีความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาที่กำลังเรียนชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ  
3.) เน้นการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21  
4.) ท้าทายความคิดของผู้เรียน และ  
5.) เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความเข้าใจและความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน การบูรณาการกิจกรรมการเรียนรู้เข้ากับชีวิตประจำวัน"


    สำหรับครูกษมาพร  เข็มสันเทียะ จากโรงเรียนชุมชนบ้านไผ่ยิ่งยงอุทิศ จ.ขอนแก่น มานำเสนอผลงานการจัดการเรียนรู้บูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ในระดับปฐมวัย โครงงานปั้นข้าวจี่ ฝีมือหนู  เล่าถึงผลงานที่นำไปใช้กับนักเรียนอนุบาล ว่าจากที่พาเด็กๆ ได้ลงมือทำกิจกรรมจริง ทำให้เด็กๆ สนุก มีความกระตือรือร้น ให้ความสนใจ กล้าแสดงออกมากขึ้น สามารถตั้งคำถามและแก้ปัญหาได้ รวมทั้งสามารถเรียนรู้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี



             ทั้งนี้ งานประชุมวิชาการ สะเต็มศึกษา พัฒนาเด็กไทยและการนำเสนอผลงานวิชาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ปฐมวัย ครั้งที่ 2 เป็นการเปิดโอกาสให้ครู นักวิชาการ และบุคลากรทางการศึกษาระดับปฐมวัยและประถมศึกษาได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงได้เพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกระบวนการการเรียนรู้ ตามแนวทางสะเต็มศึกษาอีกด้วย

โทรทัศน์ครูวิชาวิทยาศาสตร์ การสอนวิทยาศาสตร์ของ คุณครูอังศนา มาทอง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนอัสัมชัญสมุทรปราการ การทดลองการละลายน้ำ

การสอนวิทยาศาสตร์ของ คุณครูอังศนา  มาทอง  กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนอัสัมชัญสมุทรปราการ
การทดลองการละลายน้ำ
                ครูเริ่มจากการเชื่อมโยงสิ่งแวดล้อมเข้ากับการทดลองการละลายน้ำ โดยการนำเข้าสู่บทเรียนโดยให้เด็กมีส่วนร่วมในการทดลอง และ บันทึกการทดลอง และ ให้เด็กออกมาพูดสรุปควมรู้ที่ได้
การทดลองกรด-เบส
                ครูให้เด็กนำสารที่ต้องการหากรด-เบสมาทำการทดลองตามความต้องการของเด็ก และ ให้เด็กทำการทดลองเองเด็กจะรู้ว่าสารที่นำมามีสถานะเป็นกรด หรือ เบส และ ครูแนะนำให้เด็กรู้แก้ปัญหา
ประโยชน์ที่รับ
                1.ได้ทราบว่านักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนจะทำให้นักเรียนได้รับความรู้มากกว่าการสอนแต่ในหนังสือ
2.ได้รับคามรู้เกี่ยวกับการปรับใช้เทคนิคการสอนให้เหมาะสมกับเนื้อหาโดยยึดความรู้ที่นักเรียนจะได้รับเป็นสำคัญ
                3.ได้ทราบว่านักเรียนมีความสนใจในการทดลองวิทยาศาสตร์มาก
อยากแนะนำคุณครูทุกคนว่าการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ยังวิธีการสอน หรือ เทคนิคการสอนมากมาย เช่น การใช้สื่อ                  การสอนจากหนังสือ การทดลอง แต่อย่างไรก็ตามการที่จะสอนโดยวิธีการใดนั้นขึ้นอยู่กับเนื้อนั้นๆ และ ต้องให้เด็กมีส่วนร่วมในการเรียนการการสอนด้วย

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บันทึกอนุทินครั้งที่ 16


            บันทึกผลการเรียนรู้ประจำสัปดาห์     


    วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย วันที่ 2 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2557  

 กลุ่มเรียน 102 เวลา 14.10 น. - 17.30 น




นำเสนอ THAI TEACHER TV , RESEARCH 


THAI TEACHER TV
 - ผลการจัดประสบการณ์ที่เน้นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
 -การคิดเชิงเหตุผลของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
  - ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานที่ได้รับการจัดประสบการรณ์แบบโครงการและแบบสืบเสาะหาความรู้
- การคิดพิจารณาของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์
- การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทางธรมชาติเนื้อสิ่งแวดล้อมของเด็กปฐมวัย
- ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ธรรมชาติที่มีการจัดประสบการณ์ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
Teachers TV
 - เรียนรู้วิทยาศาสตร์
  เสียงในการได้ยิน
 - เรื่องราวของเสียง 
 - จิตวิทยาศาตร์
 


การนำไปประยุกต์ใช้   (Application)  
     สำหรับการนำ THAI TEACHER TV , RESEARCH   ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมายและได้ประสบการณ์ ในการนำไปบูรณาการใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นการเรียนรู้หลายๆวิธี ซึ่งที่เพื่อนๆได้ออกมานำเสนอ ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งหมด การจัดการเรียนการสอนโดยล้วนอาศัยจากทักษะเหล่านี้โดยการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์และสามารถนำไปเขียนแผนการสอนหรือจัดกิจกรรมให้กับเด้กปฐมวัยได้ 
    หลังจากทำกิจกรรมบ้านกับโรงเรียน วันนี้สามารถเรียนรู้ได้หลายกหลายแนวทาง ทั้งยังประสานสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับครอบครัวของเด็กๆ และครูสามารถบอกความรู้ที่ผู้ปกครองจะสามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมที่บ้านได้อีกด้วย

การประเมินผล (Evaluation)
self   -  แต่งกายถูกระเบียบ ตั้งใจฟังเพื่อนรายงาน และ จดตามที่เพื่อนอ่านใจความสำคัญ สรุปย่อๆตามที่ตัวเองเข้าใจ และช่วยเพื่อนทำงานกลุ่มเป็นอย่างดี

Friends    -  เพื่อนๆตั้งใจเรียน เป็นบางคน ในภาพรวมถือว่าก็ดี เพื่อนที่ๆตั้งใจฟังอาจารย์สอนและร่วมกับตอบคำภาม ตามที่อาจารย์ถามในห้องเรียนและช่วยกันทำงานกลุ่มอย่างตั้งใจ

Teacher   -  อาจารย์จะคอยกระตุ้นใน นักศึกษามีส่วนร่วมในการตอบคำถาม ใช้คำถามอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดกระบวนการคิดที่รวบยอด และอาจารย์ให้นำแผนการสอนแต่กลุ่ม กลับไปแก้ไขให้เรียบร้อย

บันทึกอนุทินครั้งที 15


บันทึกผลการเรียนรู้ประจำสัปดาห์     

    วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย วันที่ 25 เดือน พฤศจิกายน 2557  

  กลุ่มเรียน 102 เวลา 14.10 น. - 17.30 น

      



ความรู้ที่ได้รับ (The Knowledgo Gained) 

สรุป THAI TEACHER TV , RESEARCH 

1. การกำเนิดของเสียง (โทรทัศน์ครู)
-                  ได้ฝึกทักษะการคิด การทดลอง การใช้คำถามกับเด็ก เช่น เสียงต่างกันอย่างไร และ มาจากไหน
-                   กิจกรรมนี้ใช้ได้กับเด็กปฐมวัย จะต้องเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้ง่ายกว่าเดิมเพื่อที่จะเหมาะสมกับเด็ก


2. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานของเด็กปฐมวัย    RESEARCH (งานวิจัย)
  การเรียนรู้เรื่องสี คือสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเด็ก  สิ่งที่อยู่ตามธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ ดอกไม้
นิยามศัพท์ ได้ทักษะการสังเกต  จำแนกประเภท ทักษะการหาความสัมพันธ์  ทักษะการลงความเห็น


3. สารอาหารในชีวิตประจำวัน (โทรทัศน์ครู)
        มโนทัศน์การเรียนรู้ การปรุงอาหารเกิดจากการผสมส่วนประกอบของอาหารต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างถูกต้องตามชื่ออาหารนั้นให้ได้รสที่ต้องการ
ผลลัพธ์การเรียนรู้ ปรุงอาหารเป็น รู้จักรสอาหาร เช่น เค็ม เปรี้ยว หวาน สนุกกับการทำงานร่วมกับเพื่อน
สิ่งที่เด็กต้องปฏิบัติ ช่วยกันวางแผนปรุงอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งที่กลุ่มเลือก และช่วยกันปรุงอาหารนั้น


4. ไฟฟ้าและพันธุ์พืช (โทรทัศน์ครู)
         สอนเรื่องการเจริญเติบโตของพืช โดยใช้สื่อการเรียนรู้ยอกห้องเรียน และให้นักเรียนสังเกตการณ์เจริญเติบโตของพืช จากนั้น ให้เด็กทำโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่องไฟฟ้าและพันธุ์พืช ซึ่งจากการที่เด็กได้ลงมือทำแล้ว มีสื่อ มีอุปกรณ์ให้เด็กได้ทำการทดลองเด็กก็จะเกิดทักษะกระบวนการทางด้านวิทยาศาสตร์


5. การเสริมประสบการณ์เรื่องแสงที่มีต่อทักษะการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัย  RESEARCH (งานวิจัย)
        กิจกรรมส่งให้แสวงหาความรู้เกี่ยวกับทักษะความรู้ ซึ่งแสงได้อยู่รอบๆตัวเรา และนำไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมเสริมประสบการณ์เรื่องของแสง  เพื่อพัฒนาและส่งเสริมทักษะของเด็กปฐมวัย


6. การพัฒนาทักษะพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ด้วยกิจกรรมทำเครื่องดื่มสมุนไพร RESEARCH (งานวิจัย)
ทักษะที่ได้จากการทำกิจกรรม
 -ทักษะการสังเกต
-ทักษะการจำแนก
-ทักษะการสื่อความหมายของข้อมูล
สรุปวิจัย
เด็กปฐมวัยมีการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สูงขึ้นเมื่อได้รับการจัดกิจกรรมการทำน้ำสมุนไพร



กิจกรรมในห้องเรียน




"การทำวาฟเฟิล"





วัสดุอุปกรณ์ 


  1. ไข่ไก่ egg

   2. เนย Butter

      3. แป้ง powder

4. น้ำ water

5. ถ้วย cup

   6. ช้อน spoon


ขั้นตอนการทำ

- เริ่มผสมแป้งและตอกไข่ ใส่เนย เติมน้ำทีละนิด แล้วตีแป้งและส่วนประกอบอื่นๆให้เข้ากัน จนได้เนื้อแป้งที่ไม่เหลวและแข็งจนเกินไป
- เมื่อได้แป้งตามที่ต้องการ ตักใส่ถ้วยตวงเพื่อนำไปอบ ขณะเทแป้งลงเครื่องอบ ควรเทตรงกลางเพื่อให้แป้งสามารถกระจายได้ทั่วถึง เมื่ออบเสร็จแล้วจะได้ วอฟเฟิล น่าตาน่าทานค่ะ 
เป็นขั้นตอนง่ายๆไม่ซับซ้อนสามารถทำเอง และ สอนเด็กปฐมวัยได้อีกด้วย



การนำไปประยุกต์ใช้   (Application)    

       

   สามารถนำความรู้ที่ได้จากการฟังเพื่อนออกมานำเสนอและที่อาจารย์อธิบายให้ฟังสามารถนำมาปรับใช้ในการเรียนการสอนในอนาคตได้เพราะบางกิจกรรมบางวิจัยที่ศึกษาสามารถนำมาปรับใช้กับการเรียนการสอนเด็กในการจัดกิจกรรมที่หลากหลายให้กับเด็กได้เกี่ยวกับทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ได้



ประเมินตนเอง (Self)

      ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและอธิบายถึงวิธีการสอนเทคนิคการสอนเด็กให้เด็กเข้าใจเป็นขั้นๆและสามารถที่จะนำความรู้ที่อาจารย์สอนไปใช้ได้จริงและนำไปพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพที่ดีขึ้น


 ประเมินเพื่อน (Friend)  

     เพื่อนในห้องพูดคุยถึงข้อสงสัยในเรื่องที่เพื่อนออกมานำเสนอว่ามีทักษะมีการจัดกิจกรรมอย่างไรวิธีการทำการดำเนินกิจกรรมต่างๆมีการช่วยกันตอบคำถามกับอาจารย์อย่างสนุนสนานมีการพูดคุยโต้แย้งถึงข้อสงสัยที่เกิดขึ้นและร่วมกันทำกิจกรรมในห้องเรียนอย่างสนุกสนาน


 ประเมินอาจารย์ (Teacher)  

        อาจารย์มีการถามถึงวิธีและกระบวนการทำของงานวิจัยและการจัดกิจกรรมของโทรทัศน์ว่าเขาใช้วิธีอะไรมีการสอนอย่างไรมีการใช้คำถามปลายเปิดเพื่อให้เด็กเกิดข้อสงสัยและเกิดกระบวนการคิดการหาคำตอบมีการอธิบายและสรุปถึงเรื่องที่เพื่อนออกมานำเสนออย่างเข้าใจชัดเจน

บันทึกอนุทินครั้งที่ 14


บันทึกผลการเรียนรู้ประจำสัปดาห์     

    วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย วันที่ 18 เดือน พฤศจิกายน 2557  

  กลุ่มเรียน 102 เวลา 14.10 น. - 17.30 น

      



ความรู้ที่ได้รับ (The Knowledgo Gained) 

       นำเสนอแผนการสอน


สอนเรื่อง ชนิด และลักษณะ ของนกหงส์หยก


2. หน่วย สับปะรด


สอนเรื่องประโยชน์ของสับปะรด และ ข้อควรระวังของสับปะรด



 3.หน่วย ส้ม

สอนเรื่อง ประโยชน์และข้อควรระวังของส้ม





  

   
 
 
  นำเสนอวิจัยและโทรทัศน์ครู 
 


 1.นางสาว                                  
 เรื่องโทรทัศน์ครู เรื่อง นม+สี+น้ำยาล้างจานสำหรับเด็กอนุบาล

        เด็กปฐมวัยเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นวัยที่มีการพัฒนาทางสติปัญญา ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นทักษะที่ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยสามารถคิดหา เหตุผล แสวงหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาได้ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็กปฐมวัยมุ่งเน้นพัฒนาการ การทดลองเกี่ยวกับแรงตึงผิว เริ่มจากการเทน้ำนมใส่จาน หยดสีลงไปในนม(สีเป็นสีผสมอาหารปลอดภัยกับเด็ก)แล้วหยดน้ำยาล้างจานลงไป เราจะเห็นนมไหลเวียนแล้วพาสีวิ่งเป็นสายและลวดลายต่าง ๆ สาเหตุก็คือน้ำยาล้างจานทำให้แรงตึงผิวลดลงไป นมที่อยู่ใกล้น้ำยาล้างจานจึงแตกกระจายและนมจากส่วนอื่นก็ไหลมาแทนที่(กลายเป็น"กระแสนม")และวิ่งชนสีและพาสีวิ่งไปด้วย กลายเป็นลวดลายต่าง ๆ ตอนแรกลักษณะของสีก็เป็นหยด ๆ ไม่มีการกระจายตัว เพราะว่านมมีแรงตึงผิวที่พยายามจะยึดผิวหน้าของน้ำนมไว้(ซึ่งแรงตึงผิวนี้เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของของเหลว)แต่เมื่อเราหยดน้ำยาล้างจานซึ่งมีสารลดแรงตึงผิว ผสมลงน้ำนม น้ำยาล้างจานซึ่งมีสารลดแรงตึงผิว ทำให้สีสามารถกระจายตัวออกไปในน้ำนม เมื่อเด็ก ๆ เห็นการกระจายตัวของสี   เด็ก ๆ ตื่นเต้นและอยากที่จะออกมาเป็นตัวแทนในการทำการทดลอง เด็กทุกคนจะได้ปฏิบัติคนละหนึ่งขั้นตอน 

 2.นางสาว จุทาภรณ์  แก่นแก้ว 
 เรื่องสร้างพื้นฐานการเรียนรู้กับกิจกรรม 5 ประสาทสัมผัส

เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อสร้างความพร้อมพื้นฐาน ให้กับเด็กในด้านสังคม ร่างกาย
 สติปัญญา
กิจกรรมสร้างพื้นฐานการเรียนรู้กับกิจกรรมประสาทสัมผัสทั้ง 5 เป็นการกระตุ้น ท้าทายความคิด ฝึกแก้ปัญหาและฝึกจินตนาการของมนุษย์ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 จะช่วยให้เด็กฉลาดได้
ครูใช้สื่อวัสดุอุปกรณ์ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน กระตุ้นให้เด็กเกิดการรับรู้ที่ดี ตลอดทั้งให้เด็กได้เรียนรู้ตัวเอง และบุคคลอื่น 
กิจกรรมพัฒนาด้านสติปัญญา เสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

  3.นางสาว  รัตติพร     ยังชัย
เรื่องการพัฒนากระบวนการวิทยาศาสตร์พื้นฐานของเด็กปฐมวัยโดยการใช้รูปแบบกิจกรรมศิลป
สร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ 

การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

1.ให้เด็กเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ (Active Learning) การลงมือกระทำจริงด้วยตนเองการได้รับประสบการณ์ตรงจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5

2.จัดกิจกรรมตามสภาพจริง (Authentic activity) การจัดกิกรรมที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เด็กอาศัยอยู่เป็นการส่งเสริมดารเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

3. ด้านประสบการณ์เดิมของเด็ก (prior knowledge) การเรียนรู้สิ่งใหม่นั้นฐานมาจากประสบการณ์เดิมของเด็ก

4. สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับเด็ก (Teacher and Child interaction) ครูต้องเป็นผู้ให้ คำแนะนำ กำลังใจ เอื้ออำนวยช่วยเหลือให้เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง

5. สะท้อนความคิด (Reflective thinking) ระหว่างที่จัดกิจกรรมเรียนรู้ การสะท้อนความคิดเป็นลักษณะหนึ่งที่ต้องกระตุ้นให้เด็กเกิดความคิดไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการกระทำที่ปฏิบัติลงไป

  
4.นางสาว  อนุสรา     แก้วชู


 5.นางสาว  รัชดาภรณ์  มณีศรี

 6.นางสาว  น้ำผึ้ง       สุขประเสริฐ   เรื่อง ดินน้ำมันลอยได้อย่างไร



       กิจกรรมในห้องเรียน



"ไข่เทอริยากิ"

           เป็นกิจกรรมที่สามารถนำไปใช้สอนเด็กได้เพราะมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากวิธีการทำก็ง่ายอุปกรณ์ส่วนผสมก็หาได้ทั่วไปแถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วยส่วนผสม 



ส่วนประกอบ

 1.ไข่ไก่ (Egg)      
  2.ข้าวสวย (Rice)        
 3.ผักต่างๆ (แครอทcarrot /ต้นหอม leek)         
 4.ปูอัด (a crab compresses)        
 5.ซอสปรุงรส        
 6.เนย (better)

  วิธีการทำ        

1.ตีไข่ใส่ชาม     
 2.นำส่วนผสมต่างๆใส่ลงไปในไข่ในอัตราส่วนที่พอดี       
 3.นำเนยใส่ในหลุมกระทะ         
4.คนส่วนผสมให้เข้ากันจากนั้นนำไปเทลงในหลุมกระทะที่เตรียมไว้ 


การนำไปประยุกต์ใช้   (Application)                         

             สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเขียนแผนการสอนการทำกิจกรรมต่างๆในห้องเรียนรวมถึงวิธีการสอนเทคนิคต่างๆสามารถนำไปใช้ในการสอนเด็กในอนาคตของเราได้จริง  เพราะการเขียนแผนรวมถึงวิธีการสอนเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องใช้สอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จะเป็นครูต้องสามารถเขียนแผนการสอนและสามารถนำแผนที่เขียนนั้นไปสอนเด็กให้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่วางไว้ได้อย่างถูกต้องและเป็นขั้นตอนและต้องเขียนแผนให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละวัย


ประเมินตนเอง (Self)                

       ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนและอธิบายถึงวิธีการสอนเทคนิคการสอนเด็กให้เด็กเข้าใจเป็นขั้นๆและสามารถที่จะนำความรู้ที่อาจารย์สอนไปใช้ได้จริงและนำไปพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพที่ดีขึ้น
ประเมินเพื่อน(Friends)                

       เพื่อนในห้องพูดคุยถึงข้อสงสัยในเรื่องที่เพื่อนออกมานำเสนอว่ามีข้อบกพร่องตรงไหนที่เพื่อนควรปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นเพื่อนๆร่วมทำกิจกรรมและสนใจฟังเพื่อนออกมานำเสนอได้ดี และร่วมกันทำกิจกรรมในห้องเรียนเป็นอย่างดี
ประเมินอาจารย์  (Teacher)               

        อาจารย์มีการถามถึงวิธีและกระบวนการสอนว่ามีตรงไหนที่เราคิดว่าไม่ถูกต้องควรปรับปรุงควรสอนแบบไหนก่อนก่อนที่จะไปสอนอีกแบบหนึ่งมีการถามให้เราเกิดความคิดและความเข้าใจในวิธีการสอนนั้นจริงๆและสามารถนำเทคนิคและวิธีการต่างๆไปสามารถใช้กับเด็กได้จริงในอนาคต มีการนำอุปกรณ์การประกอบอาหารมาให้นักศึกษาทำเพื่อที่สามารถนำไปใช้สอนกับเด็กในเรื่องของการประกอบอาหาร